The New Year Day Is Little Wolf - The New Year Day Is Little Wolf นิยาย The New Year Day Is Little Wolf : Dek-D.com - Writer

    The New Year Day Is Little Wolf

    วันปีใหม่ของหมาป่าน้อย

    ผู้เข้าชมรวม

    376

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    376

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  3 ม.ค. 50 / 10:42 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      The New Year Day Is Little Wolf
      วันปีใหม่ของหมาป่าน้อย


      ย้อนไปเมื่อตอนที่ฉันอายุแค่5ขวบ ตอนนั้นฉันยังคงเป็นแค่หมาป่าตัวเล็กๆที่ยังกลายร่างเป็นแวร์วูฟไม่ได้ ฉันอาศัยอยู่ที่บ้านในป่ากับพ่อและแม่ พ่อของฉันเป็นแวร์วูฟขนสีดำชื่อฟอรเต้ แต่แม่ฉันเป็นมนุษย์ชื่อโรล แม่บอกกับฉันว่าแม่พบรักกับพ่อที่เชิงเขาตอนหนุ่มๆ ตอนนั้นแม่เกือบตกเขาตาย แล้วได้พ่อนั้นแหละช่วยชีวิตเอาไว้ แม่จึงตกลงปลงใจที่จะอยู่ร่วมกับพ่อโดยไม่สนถึงเผ่าพันธุ์ จนมีลูกตัวเล็กๆคือผมขึ้นมา

      เอาละ ตอนนี้เราก็นอกเรื่องกันไปเยอะแล้วขอเข้าเรื่องเลยดีกว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของปี แม่บอกว่าแม่จะเข้าเมืองเพื่อไปร่วมฉลองงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กับเพื่อนตอนสมัยเรียนที่ไม่ได้เจอกันมานานแล้ว แต่ว่า ฉันก็อยากไปกับแม่ด้วย จึงลองไปถามแม่ดู

      “แม่ฮะๆ ขอผมไปด้วยสิฮะ” เสียงหวานเจื้อยแจ่วของฉันถามแม่ซึ่งหันหลังจัดตะกร้าสำหรับไปงานอยู่ “ไม่ได้หรอกจ๊ะลูก ก็ลูกไม่ใช่มนุษย์นี้จ๊ะ แล้วลูกจะไปยังไง อีกอย่าง วันนี้ก็ไม่ใช่วันพระจันทร์เต็มดวงที่ลูกจะกลายเป็นมนุษย์ได้นี้จ๊ะ อยู่เล่นกับพ่อไปเถอะจ๊ะ” แม่พูดโดยไม่หันกลับมามองฉัน เพราะแม่กำลังรีบอยู่ “ง่า!!! อยู่กับพ่อน่าเบื่อจะตายอะ งั้น.....ก็ให้ผมไปในฐานะของ....สัตว์เลี้ยงของแม่ได้ไหมฮะ” ฉันพูด พลางอมยิ้มเล็กน้อย

      “อืม.........งั้นก็ได้จ๊ะ” แม่พูดหลังจากที่ครุ่นคิดอยู่เล็กน้อย ฉันเฮ้ดีใจเสียงดัง วิ่งเข้าไปคลอเคลียแม่ใหญ่เลน “แต่....ลูกต้องสัญญากับแม่ก่อนนะว่าจะอยู่ใกล้ๆกับแม่นะ” แม่พูด ฉันพยักหน้ารับโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง เพราะฉันอยากไปงานปีใหม่ที่แม่เล่าว่าเป็นงานที่สนุกมากเร็วๆ “อีกอย่างนะ ลูกอย่าเผลอพูดภาษามนุษย์ซะละ”

      “ครับแม่^.^” ฉันตอบรับ แม่ยิ้มและลูบหัวฉันเบาๆ “งั้นก็รีบไปกันเถอะจ๊ะ” จากนั้นฉันกับแม่ก็เดินไปลาพ่อซึ่งนอนเล่นอยู่บนต้นไม่หน้าบ้าน จากนั้นก็เดินไปตามทางป่า ซึ่งฉันค่อยเดินข้างๆแม่อยู่ไม่ห่าง ไม่นานนักพวกเราก็เดินทางมาถึงเมือง โอ้! มันช่างสวยอย่างที่แม่เคยเล่าจริงๆ ไฟกระพริบหลากสีที่แขวนห้อยอยู่เต็มทางเดิน ป้ายหน้างานขนาดใหญ่ที่ทำจากไม้เขียนว่า Happy New Year มีผู้คนเดินกับขวักไขว่ตั้งแต่ทางเดินนอกเมืองไปถึงปราสาทฟาเรนเซีย มีห้างร้านขายของมากมายตลอดตามเส้นทางเดิน ร้านขนมก็เยอะแยะกลิ่นของมันส่งผลให้ฉันน้ำลายสอ จนฉันอยากกลับร่างเป็นเด็กมนุษย์แล้วไปซื้อขนมมากิน โดยเฉพาะขนมสายไหมนั้นฉันชอบมากเพราะแม่เคยซื้อมาให้ก ินทุกครั้งที่แม่เข้ามาในเมือง แต่ฉันก็คงทำไม่ได้

      “เฮ้!โรล!ทางนี้จ๊ะ” มีเสียงหนึ่งตะโกนมาจากด้านข้างของฉัน แม่กับฉันหันไปทางต้นเสียง ก็พบกับหญิงสาวผมสีน้ำตามยาวมีมงกุฏอยู่บนหัว สวมชุดสีชมพู กระโปรงยาว และผูกโบว์สีแดงเล็กๆผมอีกด้วย

      “ไงไอริช ยินดีที่ได้พบกันนะจ๊ะ นี้ขอแนะนำให้รู้จักกับวาว่าหน่อยนะเธอ มันเป็นสัตว์เลี้ยงของฉันเองแหละ” แม่พูดแนะนำตัวฉันให้เพื่อนแม่ฟัง “แหม....ช่างเป็นลูกหมาป่าที่น่ารักจริงๆเลยนะจ๊ะ ส่วนฉันขอแนะนำเธอให้รู้จักกับลูกฉัน เบลและซีโร่ เออ....เธอคงรู้จักเขาแล้วนะ” ไอริชแนะนำคณะของเธอบ้าง ฉันมองแม่และเพื่อนแม่ แล้วสายตาของฉันก็มองทะลุไปยังคนที่อยู่ขางหลังเพื่อนของแม่ เป็นเด็กผู้หญิงผมสีทองยาวประบ่า ดวงตาสีเขียวมรกต สวมชุดสีชมพู กระโปร่งยาวถึงเข่า จูงมืออยู่กับชายผมยาวสีทอง ตาสีฟ้าคราม เสื้อยืดสีแดงมีรูปตัวZที่หน้าอกซ้าสย สวมกางเกงยีนสีเงินเข้ม ซึ่งยืนทำหน้าเบื่อหน่ายอยู่

      “แหม....นี้ตกลงเธอเอาองค์ชายซีโร่เป็นแฟนจริงๆรึจ๊ะ^^” แม่พูด ไอริชตอบกลับว่า “ก็เขาน่ารักนี้หน่า แล้วก็นะ...*อีกหลายคำพูด*....” เจริญแล้วละ คู่นี้เมาท์กันจนลืมคนรอบข้างไปซะสนิทเลย ซีโร่ซึ่งเบื่อมากๆจึงเดินหายไปกับฝูงชน ปล่อยให้เด็กผู้หญิงผมทองยืนอยู่คนเดียว เธอนั้นมองมาที่ฉันอยู่

      “สวัสดีค่ะคุณหมาป่า” เด็กผู้หญิงอายุราวๆห้าขวบที่ชื่อเบลคนนั้น เดินเข้ามานั่งทักทายฉัน ฉันพยักหน้าตอบรับ พอมองใกล้ๆดูแล้วเธอก็น่ารักไม่น้อยเลยทีเดียว แต่มันก็ทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆในหัวจโดยควบคุมไม่ได้

      “ไปเที่ยวกันเถอะนะจ๊ะ” แล้วเธอคนนั้นก็พา(ลาก)ฉันตามเธอไปโดยแม่กับเพื่อนแม่นั้นเมาท์กันโดยไม่รู้อะไรเลย เธอพาฉันไปยังร้านขนมล็กๆร้านหนึ่ง ร้านทำขนมสายไหมนั้นเอง

      “ป้าค่ะ ขอสายไหม เออ.....สองไม้ค่ะ” เธอคนนั้นพูดกับคุณน้าขายสายไหม แต่คงเห็นฉันยืนน้ำลายสอมองขนมสายไหมในเครื่องปั้นสายไหมเข้า ก็เลยคงสั่งให้ฉันอีกไม้เป็นแน่ แล้วขนมสายไหมสองไม้ก็มาอยู่ในมือของเธอจนได้ โดยเธอควักเงินในกระเป๋าจ่ายให้คุณน้าไป

      หลังจากนั้นเธอก็พา(ลาก)ฉันไปยังอีกหลายร้าน ซื้ออาหารหลายอย่างจนเต็มมือ โดยฉันต้องช่วยคาบให้ด้วยเพราะสงสารเธอ เธอไปเล่นเกมส์ต่างๆบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเกมส์ตกปลา เกมส์ยิงปืน จนในที่สุดพวกเราก็ไปนั่งอยู่ที่สวนสาธารณะเล็กๆซึ่งไม่มีคนอยู่มากนัก ฉันนั้นหอบเหนื่อยใจแทบขาด เพราะโดนเธอลากไปนู้นที่ไปนี้ทีจนมึนไปหมด แถมยังต้องช่วยเธอถือของอีก

      “แฮ่กๆๆๆ” ฉันหอบจนลิ้นห้อย เธอคนนั้นมองฉันก่อนจะพูดว่า “ขอโทษนะจ๊ะ ที่ทำให้เธอเหนื่อย กินนี้ก่อนสิจ๊ะ” ว่าแล้วเธอก็ยื่นขนมของโปรดให้กับฉัน ขนมสายไหมนั้นเอง แต่ว่ามันยังมีแค่ไม้นึงแล้ว เพราะอีกไม้เธอกินหมดแล้วระหว่างทางมาที่นี้ ฉันยิ้มอย่างสุขใจ แต่ก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ฉันเอาขาหน้าซ้ายชี้ไปที่สายไหม จากนั้นก็ชี้ไปที่เธอกับฉัน ดูเหมือนเธอจะเข้าใจที่ฉันบอกด้วย

      “เอ๊ะ!จะแบ่งให้ฉันด้วยรึจ๊ะ” ฉันพยักหน้างึกๆ “งั้น....ก็ไม่เกรงใจละนะ” แล้วเธอก็ฉีกสายไหมออกมาเป็นก้อนเล็กๆจากนั้นก็เอามาป้อนให้ฉัน โอ้....ความหวานอร่อยของมันแทบทำให้ฉันขึ้นสวรรค์เลยทีเดียว จากนั้นพวกเราก็ผลัดกันกินจนในที่สุดก็เหลือแต่ไม้ ซึ่งเธอเอามาให้ฉันเลียจนหมดจนเลย(ปลอมได้เหมือนหมามาก)

      “นี้นายหมาป่า กินทาโกยากิไหมจ๊ะ” เธอหยิบห่อทาโกยากิออกมา ฉันได้กลิ่นหอมๆของมันจึงพยักหน้ารับ เธอจิ้มมันมาป้อน(ยัด)ให้ฉัน โอ้ไม่!มันร้อนจนฉันร้องดิ้นไปทั่วและคายมันออกมา เธอคนนั้นยิ้มคิกคัก ฉันน้ำตาไหลเล็กน้อย ลิ้นฉันคงฟองไปหมดแล้วละมั่ง ฉันมองสายตาโกรธๆไปทางเธอ แต่ก็ต้องเย็นใจลงเมื่อเธอพูดว่า

      “ขอโทษนะจ๊ะ คุณหมาป่า ลืมไปนะว่ามันร้อน มาๆเดี๋ยวหนูเป่าให้” แล้วเธอก็เป่าไอ้ลูกกลมๆที่เขาเรียกกันว่าทาโกยากิจเย็นและนำมาป้อนให้ฉันอีกครั้ง(คราวนี้ป้อนจริงๆไม่ใช่ยัด) ฉันลักเลอยู่เล็กน้อย แต่พอได้เห็นแววตาและรอยยิ้มของเธอ ฉันจึงกล้าขึ้นและงาบคำเดียวเข้าปาก จากนั้นก็เคี้ยวสองสามครั้งและกลืนลงไป มันอร่อยมากจากนั้นก็อ้อนขอเธออีกทั้งๆที่หน้าแดง .....ไม่รู้ทำไมฉันจึงหน้าแดงด้วย ไม่รู้จริงๆ

      แล้วเราสองคนก็กินทาโกยากินหมด(โดยมีเธอเป่าให้เย็น) จากนั้นเราก็หันไปกินขนมหลายๆอย่างจนอิ่มแปลไปหมด เราสองคนเดินไปนั่งชมพระจันทร์เสี้ยวกันที่ใต้ต้นไม้ ซึ่งมีหญ้านุ่มๆสีเขียวงอกอยู่รอบๆ เพื่อรอเวลาที่เขาจะจุดผลุฉลองปีใหม่กัน

      “10…..9……8……7…..6……” เสียงคนจำนวนมากนับเลขลอยมากับสายลม ซึ่งฉันและเธอก็ได้ยินเช่นกัน “5…..4……3…..2…..1…….HAPPY NEW YEAR!!!!!!!” เสียงเฮดังลั่นมากจากใจกลางเมือง พลุจำนวนมากถูกยิงขึ้นฟ้าหลายหลากสี ฉันกับเธอยืนขึ้นและเงยหน้าขึ้นไปมอง มันช่างสวยงามเหลือเกิน แล้วไม่นานนักพลุก็หมดไป แต่เสียงงานเลี้ยงฉลองยังคงดังลั่นอยู่ ฉันหันไปทางเธ อ ก็พบว่าเธอนั้นนอนหลับไปเสียแล้ว(ก็มันตั้งเที่ยงคืนนี้หน่า ใครจะไม่ง่วงบ้างละ) ฉันเองนั้นก็หนังตาเริ่มหย่อนเหมือนกัน จึงเดินไปนอนข้างๆเธอและก็หลับไป

      ทางด้านโรล ไอริช และซีโร่

      พวกเขานั้นลืมลูกไปซะสนิทเลย พึ่งมารู้ว่าลูกนั้นหายไปก็ตอนที่เขาจุดพลุกันแล้ว ทั้งหมดช่วยกันออกตามหาไปทุกที่แต่ก็ไม่พบ สุดท้ายทั้งหมดก็ไปเจอกันที่สวนสาธารณะข้างๆเมือง ซึ่งมีไฟเปิดอยู่ ตรงกลางก็มีน้ำพุ

      “เจอกันรึเปล่าละ” โรลถามไอริชและซีโร่ ทั้งคู่ส่ายหน้า

      “ไม่เจอทั้งหมาป่าน้อยของเธอและเบลนั้นแหละ” ไอริชตอบกลับ

      แต่แล้วสายตาอันเฉียบแหลมดุจดังเหยี่ยวของซีโร่ก็บังเอิญไปเห็นร่างๆหนึ่ง ไม่สิ สองร่างต่างหากนอนหลับอยู่ใต้ต้นไม้ข้างๆสวน ซึ่งแสงจันทร์นั้นสาดส่องไปทั่ว จึงทำให้ซีโร่นั้นมองเห็นได้

      “ดูเหมือน.....เราจะเจอแล้วละ” ซีโร่พูดขึ้นมาช้าๆเย็นๆและเดินไปยังต้นไม้ข้างสวนนั้นโดยมีโรลและไอริสตามหลังมา ภาพที่เห็นนั้นทำให้ทุกคนอมยิ้มน้อยๆ ไม่เว้นแม่แต่องค์ชายซีโร่ผู้เย็นชา ภาพของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งซึ่งนอนหลับโดยมีหมาป่าขนสีเงินตัวน้อยๆอยู่ในอ้อมแขน หน้าตาของทั้งคู่ยังคงยิ้มอย่างมีความสุข ทั้งๆที่ยังหลับอยู่

      *****************************

      หลังจากนั้นเราก็ได้แยกย้ายกันกลับบ้านของตัวเองและไม่ได้เจอกับเด็กผู้หญิงคนนั้นอีกเลย ฉันจดเหตุการณ์อันน่าประทับใจนั้นไว้ในไดอารี่และเก็บไว้ในลิ้นชักแห่งความทรงจำ ทุกครั้งที่เอาออกมาอ่าน ก็มักจะหน้าแดงเสมอ ไม่รู้ทำไม ไม่รู้ทำไมจริงๆ ทำไมฉันต้องหน้าแดงด้วย ไม่รู้ทำไม(ช่างไร้เดียงสาเหลือเกิน จบ……… - คนแต่ง)

      ~ The End ~

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×